8 สิ่งที่คนทำงานประจำ จำต้องพบ

[Beer625]

1. อย่าเป็นตัวของตัวเองเหลือเกินในโลกอินเตอร์เน็ต

คนไม่ใช่น้อยเชื่อว่าโลกอินเตอร์เน็ตเป็นพื้นที่ส่วนตัว จะโพสต์อะไรมันก็สิทธิ์ของพวกเรา แต่รู้รึเปล่าว่า HR สมัยปัจจุบันนอกจากจะมอง resume พวกเราแล้ว ยังดูเฟสของเราด้วย สหายเราที่เป็น HR การันตีมาว่าหน้าเฟสบอกความเป็นตัวตนที่จริงจริงของเราได้มากกว่า

Resume เป็นสิบเท่า สิ่งที่เราโพสลงบนโลกอินเตอร์เน็ตของพวกเรานั้นส่งผลกับเราตั้งแต่ก่อนเข้างานซะอีก เมื่อพวกเราเป็นมนุษย์เงินเดือนเต็มตัว เรื่องเหล่านี้ยิ่งต้องระวัง หรือ


หากอย า กมีพื้นที่ส่วนตัวจริงๆเสนอแนะให้แยกเฟสที่ทำงาน กับ เฟสส่วนตัวเลย แล้วปิดสาห้วยที่พด้วย ยิ่งเรื่องดราม่าในสถานที่ทำงาน เกลีย ดคนนั้น เบื่องาน หัวหน้างั่ง ห้ามโพสต์เด็ดขาด โพสต์ปุ้บมีคนแคปไปฟ้องแน่ๆ

2. ควรเป็น "ลูกจ้างมือโปร"

ถ้าอย า กเป็นพนักงานประจำที่ประสบความสำเร็จรวมทั้งสุขสบาย ต้องเป็น "ลูกจ้างมือโปร" ให้ได้ ผู้รับจ้างมือโปรก็คือผู้ที่ใส่ใจได้ว่า "เราถูกว่าจ้างมาด้วยค่าตอบแทนจำนวนหนึ่ง"

นั่นนับได้ว่าบริษัทเค้าอยากอะไรบางอย่างจากเราแลกเปลี่ยนกับค่าตอบแทนนั้นๆพวกเราจะต้องรู้ว่าบริษัทว่าจ้างเรามาทำอะไร แล้วก็ทำมันให้ดียิ่งกว่าที่บริษัทคาดหวังถ้าหากปรารถนาความรุ่งเรืองในหน้าที่

ถ้างานที่ทำอยู่มีความรู้สึกว่าไม่ตรงกับ skill หรือ passion ของพวกเรา ก็ไม่ควรอดทนทำไป ควรจะหางานที่พวกเราทำแล้วเราเป็นสุขรวมทั้งทำเป็นดีเพื่อดึงศักยภาพของตัวเองออกมาให้สูงที่สุด


นอกเหนือจากที่จะทำให้เราเติบโตในองค์กรแล้ว ยังมีผลให้เราพัฒนาตนเองอยู่เสมอเวลาและไม่เบื่อด้วย แต่ก็ไม่ได้จะเชียร์ให้เป็นคนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อนะ ทรหดอดทนทำไปจนถึงจุดหนึ่ง

พวกเราจะรู้เองว่าควรจะไปทางไหนต่อ รีบหาสายงานที่ใช่ให้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆแล้วพวกเราจะเป็น Expert ได้เร็วกว่าบุคคลอื่น อายุเท่านี้ไม่ต้องกลัวการลาออก จะลาออกจำนวนกี่ครั้งก็ได้ ถ้าหากท้ายที่สุดพวกเราเจอสายอาชีพที่เรารักและก็อย า กทำ จะเป็นอะไรที่คุ้มมากมาย

รวมทั้ง ด้วยคอนเซ็ปท์เดียวกัน "พวกเราถูกว่าจ้างมาด้วยเงินเดือนปริมาณหนึ่ง" อย่าทำงานหนักเกินกว่าค่าแรงงานจนกระทั่งเกินไป ทุ่มเทได้ แต่ว่าควรมีคำตอบที่ดีตามออกมาด้วย อาทิเช่นได้ปรับค่าจ้างรายเดือน ได้ประเมินดี

หาเวลาอยู่กับพ่อแม่ ญาติๆบ้ า ง หันกลับไปมองดูด้านหลังบ้ า งว่าคนที่เป็นบันไดให้พวกเรามายืนจุดนี้ ในเวลานี้เค้าเป็นยังไงกันบ้ า งนะ? อย่าลืมว่าบิดามารดาแก่ลงทุกๆวัน ดูแลสุ ข ภ า พ ท่านด้วย ถ้าหากเดือนไหนมีเงินเหลือก็ตรวจสุ ข ภ า พ ให้แด่ท่านแล้วหาเวลาไป มันไม่ตรากตรำหรอก แลกเปลี่ยนกับความสำราญของบิดามารดา

3. มีแฟนในสถานที่สำหรับทำงานได้แต่จำต้องสารภาพผลปรากฏว่า

ถ้าเกิดคุณเป็นคนที่แยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนบุคคลไม่ออก แนะนำว่าอย่ามีคนรักในสถานที่ทำงาน มิได้กล่าวว่าไม่สมควรคบคนภายในที่ทำงาน แม้กระนั้นถ้าคบและจำเป็นต้องสารภาพผลที่ตามมาให้ได้ บางทีอาจจะต้องเจอเรื่องดังเช่น

ทะเลาะกับแฟนมาแล้วจำเป็นต้องมาคุยงานกัน มีคนไหนกันแน่บ้ า งแบ่งเรื่องเฉพาะบุคคลกับเรื่องงานออกจากงานได้ 100% บ้ า ง ถ้าเกิดไม่ต้องเจอหน้ากันทุกวี่ทุกวันหรือปฏิบัติงานใกล้ชิดก็ยังพอเพียงโอเค แม้กระนั้นถ้าเกิดทีมเดียวกันบางครั้งก็อาจจะเหนื่อยหน่อย ทะเลาะกันขึ้นมาเมื่อไหร่รู้ทีค่อนบริษัท

4. หาผู้ที่เป็นมากกว่าเพื่อนร่วมงานให้พบ

ความไม่เหมือนระหว่าง "เพื่อนพ้อง" กับ "เพื่อนร่วมงาน" คืออะไร...? ที่เค้าบอกว่ายิ่งโต ยิ่งหาสหายย า กก็คงจะจริง สมัยประถม การหาสหายใหม่ไม่ย า กเท่ายุคมัธยม รวมทั้ง การหาเพื่อนในสมัยมัธยมก็ไม่อย า กเท่าตอนเข้ามหาวิทย า ลัย มันแปลว่ายิ่งพวกเราโตขึ้นเท่าไหร่ เราจะหาเพื่อนย า กขึ้นแค่นั้น และไม่ต้องบอกเลยว่าการหาเพื่อนพ้องที่จริงใจคนนึงในที่ทำงานมันย า กมากแค่ไหน นอกเหนือจากที่จะมีเรื่องมีราวผล

ทดแทน อีกทั้งตำแหน่ง ค่าจ้างรายเดือน การประมาณ เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของผู้คนเงินเดือนอย่างพวกเราคือไปทำงาน ไม่ได้ไปทำกิจกรรมสานสมาคมหาเพื่อน เพราะฉะนั้นวันๆเราก็เลยจะเจอแค่เพื่อนพ้องร่วมทีม ซึ่งส่วนใหญ่รวมทั้งเป็นการคุยกันเพียงแค่เรื่องงานแค่นั้น การมีกลุ่มที่อยู่ด้วยแล้วสนิทใจแบบงี้ เรามีความรู้สึกว่ามันเป็นกำไรชีวิต


พย า ย า มหาคนกลุ่มนี้ให้เจอในสังคมการทำงาน แล้วพวกเราจะอย า กไปทำงานมากขึ้น ให้เราทดลองถามตนเองว่า "ถ้าเราลาออกจากที่นี่ พวกเรายังจะอย า กนัดคนนี้รับประทานข้าวอยู่ไหม...?" ถ้าเกิดคำตอบเป็นใช่ ยินดีด้วย คุณเจอเพื่อนจริงๆในสถานที่ทำงานแล้วววว

5. พอใจแต่อย่าใส่ใจทางวิ่งคนอื่น โฟกัสที่ทางวิ่งของพวกเรา

เมื่อปฏิบัติงานไปนานๆเราบางทีอาจมองเห็นเพื่อนฝูงๆในสถานที่สำหรับทำงานของพวกเราผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยเริ่ม ออกไปศึกษาต่อ สร้างครอบครัว บางบุคคลเปลี่ยนงานไปงานที่ค่าจ้างรายเดือนสูงสุดๆบางคนเริ่มธุรกิจของตนเอง

ไอคนนั้นคนนี้ก้าวหน้าแล้วตัวเราล่ะทำอะไรอยู่ จงจดจำไว้ว่าอย่าเอาจังหวะชีวิตของพวกเราไปเปรียบเทียบกับบุคคลอื่นเด็ดขาด โฟกัสที่ทางวิ่งของพวกเรา รู้ว่าพวกเรากำลังจะทำอะไร

ทราบดีว่าปลายทางพวกเราอยากอะไร ทราบดีว่าวันนี้พวกเราทำดีกว่าเมื่อวานนี้แล้วหรือยัง ก็พอเพียงแล้ว แอบมองทางวิ่งคนอื่นๆบ้ า งเป็นบางครั้ง เพื่อเป็นแรงผลักดันตัวเองให้พย า ย า มมากยิ่งขึ้น แต่อย่าเอามาเทียบจนถึงทำให้ตนเองทุกข์

6. เล่นการเมืองกับทุกคน

เล่นการเมืองกับทุกคนมิได้หมายความว่าให้พวกเราไม่จริงใจกับคนใดกัน แต่ว่าการเล่นการเมืองกับทุกคนคือ.. การที่พวกเราดูว่าคนนี้เป็นคนยังไง จะเข้ากับเขาได้ยังไง มิได้กล่าวว่าให้สตอเบอร์ปรี่ หรือฝืนตัวเองมากมายๆนะ แม้กระนั้นแต่ละคนเขาก็มีพื้นฐานนิสัย ความชอบ โตมาในสังคมที่แตกต่าง การที่พวกเราดูแล้วรู้ว่าจะ "อยู่ร่วมกับเขาแบบเป็นมิตร"

ได้ยังไงจะก่อให้พวกเราดีกว่ามากๆนอกจากวางตัวง่ายแล้ว พวกเราจะไม่มีศั ต รู เคสนี้รวมทั้งบางคนที่ดูแล้วไม่ถูกจริตกัน การวางตัวกับเขาก็คือเฉยๆทักสวัสดีตามมารย า ท ไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปคุยก็ไม่ต้องคุย... พวกเราไม่เคยทราบหรอกว่าวันนึงโลกจะเหวี่ยงพวกเราเข้าไปปฏิบัติงานกับผู้ใดกันแน่ ด้วยเหตุนี้ อย่าสร้างศั ต รู เด็ดขาด...!!!

7. โดนด่าวันนี้ ดีมากกว่าโดนด่าตอนอายุ 50

เนื่องจากว่าอายุพวกเรายังน้อยนี่คือข้อได้เปรียบสุด ด้วยเหตุว่า อายุยังน้อยความมุ่งหวังจากคนที่อยู่รอบข้างมันเลยน้อยตามไปด้วย ทำอะไรไม่ถูกก็มักมีคนให้อภัยเสมอ ถึงแม้ว่าพวกเราจะรู้สึกบีบคั้นสำหรับการปฏิบัติงานสุดๆแต่เชื่อเถอะ เราล้มเหลววันนี้ ดียิ่งกว่าพวกเราไปล้มตอนอายุ 50 ถึงวันนั้นจะไร้คนคุ้มกบาลเราด้วย

8. พวกเรามิได้เกิดขึ้นมาเพื่อปฏิบัติงานสิ่งเดียว

พวกเราไม่ได้ดำเนินการแล้วแฮปปี้ทุกเมื่อเชื่อวัน หลายทีที่เรากลับไปบ้ า นแล้วอย า กจะลาออกมันซะเดี๋ยวนั้น แต่หากพวกเรามีเป้าหมายอื่นๆในชีวิต ดังเช่น คิดเงินซื้ อ บ้ า น ซื้ อ รถ เที่ยวรอบโลก การเปลี่ยนมาทำเรื่องที่พวกเราชอบจะทำให้ร่าเริงแจ่มใสขึ้น และก็เพิ่มความแน่ใจ เนื่องจากว่าการเฟลจากที่ทำงานส่วนใหญ่มักทำให้เราเสียกำลังใจ

และก็ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง ส่วนตัวสำหรับเรามันมีผลถึงการเข้าสังคม การตัดสินใจในเรื่องงาน และก็อีกเยอะมาก ยกตัวอย่าง เรามีเพื่อนพ้องคนนึงถูกใจตัดเย็บเสื้อผ้ามากมาย เอาจริงเอาจังขนาดลงคอร์สเรียนเส า ร์อาทิตย์ ปัจจุบันนี้ปฏิบัติงานประจำไปด้วย ตัดเสื้อผ้าขายไปด้วย ตั้งอกตั้งใจปฏิบัติงานเป็นเรื่องที่ดี แต่หาอย่างอื่นทำบ้ า งชีวิตจะได้ไม่เฉาคาที่ทำงาน
ประจำพนักงาน
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13496/