7 แนวทางสอนลูกให้เชื่อฟังบิดามารดาและไม่ต้านเมื่อลูกเริ่มโต

[Fern751]

ยิ่งลูกโตขึ้น การที่เราจะหวังลูกให้เป็นเด็ กเชื่อฟังสอนง่าย เป็นเรื่องย ากมาก เพราะลูกเริ่ม

มีความคิดเป็นของตัวเอง บางครั้งก็สนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากกว่า


บางครั้งลูกก็ไม่อย ากคุย ไม่อย ากทำในสิ่งที่พ่อแม่ต้องการสักเท่าไรนัก


ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงใช้วิธีทำหูทวนลม เพิกเฉยต่อคำกล่าวของพ่อแม่ แล้วก็มันอาจเอามาสู่ การมีปัญหากันได้

1. หาว่าอะไร ที่ทำให้เขาไม่เชื่อฟัง

แม้ลูกเป็นเด็ กที่ไม่เชื่อฟัง ครั้งคราวอาจจะเกิดขึ้นเนื่องมาจากกำลังโก รธ เศร้าใจ

หรือต้องการให้พ่อแม่เอาอกเอาใจ สิ่งที่ควรจะทำหมายถึงคุยและ หาคำตอบ ว่าเพราะเหตุใดเพราะเหตุใด

ลูกไม่เชื่อฟังรวมทั้งบอ กรักลูกให้ลูกไว้ว่า มีพ่อแม่อยู่ข้างๆเสมอนะ

และดังนี้ควรสังเกตทัศนคติวิธีคิดด้วย รวมทั้งการพูดของลูก ก็เพื่อที่จะรู้เรื่องลูกเยอะขึ้นด้วยนั่นเอง

2. สอนด้วยการ ใช้วิธีแบบเข้าใจง่ายๆ

เพราะเหตุว่าเด็ กอาจจะยังแบบว่า ฟังประโยคย าวๆพร้อมไม่รู้เรื่อง สิ่งที่ควรจะทำนั้นเป็น

ใช้เคล็ดลับสอนเขา ให้จำง่ายขึ้น เป็นต้นว่า มีมือเอาไว้ช่วย ไม่ใช่เพื่อเอาไว้ติเตียน หรือ กล่าวให้ตื่นเต้น


ดังเช่นว่า วันนี้ทำอะไรที่สถานศึกษาบ้ าง หลี กเลี่ ยงคำว่า ไม่ หรือ ห้าม เนื่องจากว่าทำให้ลูก


ไม่อย ากทำต าม ตัวอย่างเช่น ห้ ามดื้อ ก็ควรจะกลายเป็น แม่ชอบลูก ตอนที่เชื่อฟังแม่ที่สุดเลยนะ

ยิ่งไปกว่านี้ พ่อแม่บางทีอาจเปลี่ยนมาใช้การให้ค่ะแน น เพื่อลูกมีเป้าหมาย สำหรับในการเชื่อฟังมากเพิ่มขึ้นก็ได้นะ

3. สอนด้วยคำพูด สายตาที่ความรัก

ขณะใดที่ลูกทำผิด คุณอาจจะทนไม่ได้ที่จะตะคอ กลูก จากคำกล่าวแร งๆของคุณ

ทั้งไม่สนใจฟังในสิ่งที่ลูกอย ากอธิบายด้วย รวมทั้งการขึ้นเสียง การตะคอ กนั้นมันอาจจะเป็นผลให้

ลูกสงบลงได้ก็จริงนะ ถ้าว่าในอนาคต ลูกก็จะทำอีกอยู่ดี ฉะนั้นแล้ว สิ่งที่ควรจะทำ คือ เริ่มจากดึงความสนใจ

ลูกด้วยการ เรียกชื่อลูกใช้คำบอกเล่าง่ายๆให้ลูกทบทวนในสิ่งที่ทำ ใช้น้ำเสียงที่หนักแน่น แต่ไม่ดุเดือด

ให้คุณลองเปลี่ยนแปลง เป็นบอ กทางป้องกั น แก้ปัญหาจะดีกว่านะ นอ กจากคำบอกเล่ากับน้ำเสียงแล้ว

ภาษากาย ก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้ลูกฟังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กล่าวกับเขาดีๆบอกด้วยสายตาที่ความรัก แล้วคุณจะเข้าใจลูกเพิ่มมากขึ้น

4.ฟังสิ่งที่ ลูกจะบอก

ด้วยเหตุว่าบางที สิ่งที่พ่อแม่คิด มันก็มิได้ถูกต้องเสมอหรอกนะ เพราะเด็ กแต่ละคน

พวกเขาก็มีความคิดเป็นของตัวเอง และสิ่งที่ควรทำ คือ ถามให้รู้ดีว่าลูกคิดอะไรทำไปเพื่ออะไร


รวมทั้งมีอะไรอยู่ในใจ แล้วจงตั้งใจฟังสิ่งที่ลูกบอก เพื่อช่วยทำให้ลูกผ่อ นคล า ยความรู้สึกหนักใจได้

5. สอนด้วย การมีข้อตกลง ระหว่างกัน

แต่ทว่านะเด็ กทุกคน ก็มีอะไรที่ถูกใจ ที่เกลียดชังของตนเหมือนกันนะ และบ่อยมาก ที่คุณให้ลูก

ทำสิ่งที่เกลียดชัง นานกระทั่งลูกเริ่มไม่เชื่อฟัง แล้วก็สิ่งที่ควรทำนั้น คือ เด็ กวัย 2-3 ขวบ เป็นวัยที่การต่ อต้ าน

ฉะนั้น ลองให้ข้อเสนอ เพื่อเป็นข้อตกลงด้วยกันดูสิ เพื่อลดการโต้เถียงหรือการเชื้อเชิญทะเล า ะลงได้

6. สอนลูก จากการเป็นแบบอย่ าง

ในช่วงวัยเด็ ก เขามักจะลอ กเลียนแบบ พฤติก ร ร มของคนสนิท

และไม่สามารถแบ่งแยกได้ ว่าอะไรไม่สมควร อะไรควร มันก็เลยทำให้หลายครั้งลูกเผลอเลียน พฤติก ร ร ม

ที่มันไม่ดีของผู้ใหญ่ เมื่อถูกติเตียนและต่อว่าต่อขานลูกจึงไม่รู้เรื่องว่า ทำไมบิดามารดายังทำได้เลยล่ะ

และการทำให้ลูกกำเนิดความข้องใจ และบิดามารดาไม่อธิบายนั้น มันก็เป็นต้นเหตุ

ที่ทำให้ลูกเริ่มไม่เชื่อฟังบิดามารดา แล้วก็สิ่งที่ควรทำนั้น คือ ลูกศึกษาจาก

ความประพฤติได้ดีมากว่าคำพูด เพราะเหตุว่าถ้าอย่างนั้น พ่อกับแม่ควรเป็นตัวอย่ างให้ลูกเห็น ว่าอะไรทำได้ อะไรไม่ควรที่จะทำ

7. สอนลูก ใช้สมอง แก้ปัญหาด้วยตัวเองได้

เพราะว่าประโยคคำบัญชานั้น มันก็ทำให้ลูกมีความคิดว่า ตนเองไม่ได้เรื่องเอาซะเลยจ้า

ทำอะไรก็ไม่ดี ทั้งนี้มันก็ส่งผลต่อให้ลูกไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเองซะงั้น อีกทั้งบางทีอาจกลายเป็นคนไม่แน่ใจไปเลย

ไม่กล้าที่จะคิดเริ่มอะไรใหม่ๆสิ่งที่ควรจะทำนั้นหมายถึงจำต้องฝึกให้ลูกใช้สมองและก็จัดการกับปัญหาด้วยตัวเอง

อย่างเช่น ไหนลูกลองคิดสิว่าจะเอาตุ๊กต าตัวนี้ ไปเก็บไว้ไหนดีนะ และก็ยิ่งไปกว่านี้ควรจะหา

กิจก ร ร มบันเทิงใจๆทำด้วยกันกับลูกเมื่อคุณพ่อคุณแม่ เห็นลูกทำไม่ถูกต้อง


จะได้สอนลูกให้คิดแก้ปัญหา แทรกเรื่องของคุณงามความดี จริยธรรมไปได้ด้วย โตมาเขาจะได้เป็นคนมีคุณภาพ
เชื่อฟัง
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/12945/