• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

6 นิสัยพาจนถึง ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยเคยชิน ไม่เคยดูตัวเอง

Started by Jenny937, April 06, 2023, 03:30:30 AM

Previous topic - Next topic

Jenny937

"ความอัตคัด" เกิดเรื่องใกล้ตัวมากกว่าที่คุณคิด เมื่อต้นปี 2015 หน่วยงานต่อต้านความย า กจน "อ๊อกเฟม" ได้เผยแพร่ข้อมูล ณ เมืองดาวอส สำหรับเพื่อการประชุม เวิล์ด อีวัวโนมิค ฟอรัม พูดว่า คนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก 1% เป็นเจ้าของความรวยสูงถึง 48% ของความร่ำรวยบนโลก แล้วคุณคิดว่า! ในประเทศไทย

คนมั่งมีที่สุดจะครอบครองความรวยไปเท่าไร? แล้วจะเหลือพื้นที่กี่เปอร์เซ็นต์ไว้ให้ท่าน วันนี้! ถ้าเกิดคุณยังไม่ตื่นตัวพัฒนาตนเอง ก็เท่ากับคุณกำลังก้าวลงสู่ความขาดแคลนไปวันแล้ววันเล่า


และก็เปอร์เซ็นต์ความรวยของคุณก็จะยิ่งถูกคนมั่งมีขย า ยอาณาบริเวณไปเรื่อยมาดู 6 ข้อนี้ที่จะทำให้คุณยิ่งกระทั่งลง หากยังคงทำอยู่ในทุกวันของชีวิตแล้วก็ควรจะรีบปรับปรุงแก้ไขโดยเร่งด่วน!

1. ดำรงชีวิตเกินค่าครองชีพ

หลายๆคนดำเนินชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย ทั้งยังจับจ่ายตามที่ใจต้องการ ซื้ อ ของที่อย า กได้ หรือแม้กระทั้งยอมเป็นหนี้บัตรเครดิต เพียงแต่เพื่ออยากได้ซื้ อ ข้าวของที่ไม่มีความจำเป็นมาแต่งแต้มชีวิตคุณให้ดูดี และก็ "ดูมี" เหมือนคนอื่นๆ คนอื่นๆที่ว่าบางทีอาจทำเป็น ด้วยเหตุว่าสถานะทางการเงินของเขาอาจมั่นคงจะหรือพร้อมกว่า แต่ว่าการใช้เงิน "เกินค่ายังชีพที่จำเป็นต้อง"

ดังเช่น กาแฟแก้วละ 35-40 บาท กับ กาแฟแก้วละ 100-170 บาท ราคากาแฟแก้วละเท่าไหร่? ที่คุณมีความคิดว่าซื้ อ ง่ายจ่ายสุขใจได้ทั้งเดือน นั่นเป็นราคากาแฟที่เหมาะสมกับค่าครองชีพที่คุณแบกรับไหว ถ้าหากรู้สึกว่าไม่ค่อยสบายใจที่จะจ่ายแต่ว่าอย า กซื้ อ โน่นคือสัญญาณอั น ต ร า ยด้านการเงินที่คุณกำลังใช้เกินความสามารถอยู่

2. หนักไม่เอา เบาไม่สู้

"ความจน" น่าสะพรึงกลัวกว่าที่คุณคิด ถ้าคุณทดลองถามมหาเศรษฐีทุกคนที่เริ่มจากศูนย์ แม้กระนั้นขยันทำมาหากิน พัฒนาตัวเอง และก็กล้าก้าวข้ามความอ่อนแรงจนกว่าก่อร่างสร้างตัวจนถึงร่ำรวย

พวกเขาเหล่านั้นจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "ไม่อย า กกลับไปกระทั่งอีก" แต่ว่าสำหรับคนไม่ใช่น้อยที่ยังเป็นพนักงานประจำ หรือ เพิ่งเริ่มธุรกิจส่วนตัว แม้กระนั้นยังไม่สู้งานหนัก


ไม่พร้อมกลับบ้ า นมืดค่ำ หรือเดินหนีปัญหาที่อยู่ตรงหน้าที่ควรรับผิดชอบ ก็อาจจะย า กที่จะพัฒนาไปสู่ความมั่งมีด้านการเงิน เนื่องจากว่านาทีทองมาพร้อมหย า ดเหงื่อเสมอ

3. ผัดวัน ไม่มีวินัย ชิลไปวันๆ

สโลว์ไลฟ์ คือชีวิตชั้นสูง ที่คนที่มีฐานะด้านการเงินพรั่งพร้อมแค่นั้น จึงจะพร้อมสำหรับการนั่งจิบกาแฟเรื่อยๆท่องเที่ยวแบบไม่รีบเร่ง บินไปเที่ยวเมื่ออย า กไป ใช้เงินซื้ อ ความสะดวกสบายเท่าที่สุขใจ แต่กลับมาก่อน คุณยังเป็นหนี้เป็นสิน คุณยังไม่มีการคลังป้อมปราการคง คุณยังปราศจากความสบายมือในการจับจ่ายใช้สอย

ด้วยเหตุว่าคุณยังไม่มีวินัยทางด้านการเงินที่ดีแล้วก็รัดกุม ที่สำคัญ! คุณยังดำเนินการและก็คิดบัญชีแบบผลัดวันไปเรื่อยๆอีกด้วย การเรียบเรียงชีวิตใหม่ จัดอันดับจุดสำคัญ 1 2 3 ว่าแผนการที่คุณต้องการในชีวิตคืออะไร จะทำให้คุณวางแผน ไม่หยุดปรับปรุงตนเอง และก็สร้างวินัยให้กับชีวิตที่ปรารถนาได้เร็วขึ้นเป็นเท่าตัว

4. ไม่อาจจะปฏิบัติงานร่วมกับผู้อื่น

"ไม่มีใครสามารถดำเนินการคนเดียวได้" แม้แต่อาชีพฟรีแลนซ์ ก็ยังควรมีคอนเน็คชั่นเพื่อสร้างงานคุณภาพให้ไปถึงเป้าหมาย เมื่อคุณต้องปฏิบัติงานร่วมกับคนอื่นๆในกลุ่ม สิ่งสำคัญไม่ใช่ผลงานที่ประสบความเร็จตามเป้า

แต่ว่าคือประสิทธิภาพสำหรับการติดต่อประสานงานให้เป็นผลลัพธ์สูงสุดตามที่วางเป้าไว้ หลายๆคนเสียโอกาสสำคัญสำหรับการล้ำหน้าหรือเลื่อนฐานะงาน ด้วยเหตุว่าไม่อาจจะความเกี่ยวข้องกับผู้ร่วมงานคนอื่นได้


จึงทำให้ผู้บริหารเห็นว่าคุณยังไม่เหมาะสมจะเลื่อนขั้น หรือ แม้คุณทำธุรกิจอยู่ ก็คงติดขัดอย่างแน่นอน หากต้องร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์เพื่อขย า ยธุรกิจ แม้กระนั้นคุณกลับทำตัวเป็นพระเอกอยู่คนเดียว รวมทั้งเที่ยวบอกใครๆว่าคุณดำเนินการนี้เสร็จทั้งๆที่ได้ผลสำเร็จจากการทำงานด้วยกันของคณะทำงาน

5. กลัวการตั้งเป้าหมายในชีวิต

การพุ่งชนจุดมุ่งหมาย อาจเป็นเรื่องน่าสยองสำหรับบางบุคคล ดังเช่นว่า ผู้ที่ตั้งเป้าหมายว่าจะ "ปลดหนี้" แม้กระนั้นกลัวการเห็นเงินในบัญชีพร่องลงจากการชำระหนี้ตรงตรงเวลา ไหมมีวินัยสำหรับในการปลดหนี้ จึงทำให้เลี่ยงการชำระหนี้ จนกระทั่งเป็นเหตุให้จำเป็นต้องแบกรับภาระด อ ก เ บี้ ยที่มากขึ้น หรือบางคนกำหนดเป้าหมายว่าจะเก็บเงิน 10-20% จากเงินเดือนเป็นประจำ

แต่ยอมแพ้เพราะว่ามองเห็นสินค้าที่ชอบกำลังลดราคารัว ทำให้จำเป็นต้องควักเงินในกระเป๋าซื้ อ มาจนได้แล้วก็เป้าหมายที่อย า กคิดบัญชีก็เลยล้มเหลวหมดรูป ความไม่ประสบผลสำเร็จที่คนเหล่านี้เจอคือ "ความหวาดกลัวเป้าหมายที่ตนอย า กทำ" หรือ ไม่กล้ามีเป้าหมาย เพราะกลัวทำไม่ได้ ก็เลยเป็นปัญหาที่มีความสำคัญที่จะทำให้ชีวิตของคุณพังทลายและไม่สามารถหลุดพ้นความขาดแคลนได้สักครั้ง

6. คิดมากกระทั่งก้าวสู่ความขลาดกลัว

คนคิดมากกับคนถ้วนถี่นั้นไม่เหมือนกัน คนคิดมากจะไม่ลำดับข้อมูลที่ควรนำมาตริตรอง แม้กระนั้นจะนำทุกปัญหามารวมกันจนกระทั่งทำให้มองไม่เห็นทางออก แต่ผู้ที่คิดถ้วนถี่จะคิดเป็นเรื่องๆและก็ลำดับความสำคัญว่าเรื่องใดควรมาก่อนมาหลัง ทำให้คิดเป็นแนวทางการแล้วก็ได้คำตอบในแต่ละปัญหาอย่างเร็ว ซึ่งคนชนิดที่คิดมากเมื่อทำธุรกิจ

จะไม่กล้าวางแผนในการต่อยอดธุรกิจเพื่อสร้างกำไร เพราะกลัวความผิดพลาด ทำให้พลาดโอกาสสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโต หรือ คนที่คิดมากเมื่อทำงานเป็นพนักงานประจำ จะกลัวการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือ


ไม่กล้าที่จะปฏิบัติงานย า กๆเพื่อพัฒนาตนเอง ซึ่งเป็นเพราะว่าการพิเคราะห์โดยใช้ทุกความคิดมารวมกัน จนกระทั่งเปลี่ยนเป็นความรู้สึกวิตกกังวล หรือ ขย า ยจนถึงเป็นความกลัว ที่จะรับผิดชอบงานที่ใหญ่ขึ้น ถึงแม้ว่าโอกาสมาอยู่เบื้องหน้า
นิสัยพาจน
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13475/