7 แนวทางต่อกรกับ ความกดดัน แบบคนเฉลี่ยวฉลาด

[Beer625]

ความกดดัน ส่วนใหญ่แล้วบางทีก็อาจจะไม่ได้มาจากผู้อื่น แต่ว่ามันมักจะเกิดขึ้นเพราะว่าตัวคุณเอง ด้วยภาระหน้าที่ หน้าที่ของสังคมต่างๆทำให้ท่านจะต้องไม่ค่อยสบายใจและก็กลัวว่าจะปฏิบัติภารกิจออกมาได้ไม่ดีไหมเสร็จ

ต้องเป็นลูกที่ดีของแม่ เป็นพี่สาวที่คอยดูแลน้องๆเป็นภรรย าที่น่ารักน่าเอ็นดู รวมทั้งเป็นหัวหน้าทีมในที่ทำงาน สิ่งที่ต้องการทุกอย่ างทั้งเรื่องเวลา เงิน รวมทั้งความรับผิดชอบที่ต้องมีเพิ่มมากขึ้นทุกเมื่อเชื่อวัน อาจส่งผลให้คุณบีบคั้นตัวเองจนไม่ทราบเ นื้ อ รู้สึกตัว! แต่ว่าพวกเรามีแนวทางดีๆมาให้คุณได้ลองทำกัน เพื่อคุณจัดการกับมันแล้วก็ก้าวไปข้างหน้าได้อย่ างมั่นหัวใจ

1.รู้สึกตัวเองเมื่อรู้สึกบีบคั้น

ทำงานมากๆแล้วรู้สึกกระสับกระส่าย หายใจเร็ว วิงเวียน หัวร้อน รวมทั้งระเบิดลง ตู้ม! หลายท่านชอบรู้สึกกดดันโดยที่ไม่รู้ตัว แต่จงทราบไว้ว่าหากคุณกำเนิดอาการพวกนี้ขึ้นเมื่อใด

คุณก็ตกอยู่ในภาวะบีบคั้นซะแล้วล่ะ แถมถ้าไม่รีบปรับปรุงแก้ไข บางครั้งอาจจะมีผลเสียกับตัวคุณ เช่น ป่ ว ย บ่อยมากขึ้น ป ว ดเมื่อย ท้องผูก ดำเนินการได้ไม่เต็มที่ รับประทานเยอะแยะหรือน้อยเกินไป ความต้องการทางเพศลดต่ำลง

2.รู้ที่มาของความกดดัน

เมื่อตอนนี้รู้แล้วว่าตัวเองรู้สึกบีบคั้น ต่อมาเป็นจะต้องเจาะจงให้ได้ว่าที่มาของแรงกดดันนี้คืออะไร ด้วยเหตุว่าเมื่อรู้แล้วเราบางครั้งอาจจะเปลี่ยนสิ่งพวกนี้ให้แปลงเป็นแง่บวกได้

มูลเหตุบางทีอาจจะเป็นงานของคุณที่เพิ่งจะส่งหัวหน้าไปกลับโดนแก้มาเป็นการใหญ่ หรืออาจจะมีการเกิดจากตัวคุณเองที่ปรารถนาเป็นผู้ที่เพอร์เฟ็ค ไม่ยินยอมให้แม้กระทั้งเรื่องหมูๆๆน้อยๆผิดพลาด

3.หาวิธีที่แก้ไขปัญหาในสิ่งที่คุณควบคุมได้

คุณจะต้องแยกให้ออกว่าปัญหาไหน "สามารถปรับแก้ได้" และก็ปัญหาไหน "ไม่สามาถแก้ไขได้" รวมทั้งให้เริ่มลิสต์ปัญหาที่ตัวคุณสามารถคลี่คลายได้และก็จัดแจงกับมัน

ด้วยการสร้างตัวเลือกที่ใช้สำหรับในการแก้ไขแต่ละอย่ าง คิดแผน อย่ างถ้วนถี่แล้วก็ประเมินตัวเองว่าคุณพอใจกับมันหรือเปล่า ถ้าเกิดไม่พอใจ ก็กลับไปที่ตัวเลือกแล้วก็วางแผนให้ดีอีกที

4.จัดอันดับความสำคัญของงาน

คนจำนวนไม่น้อยชอบรู้สึกว่า ยิ่งดำเนินงานให้ได้มากเยอะแค่ไหนก็ยิ่งดี แต่นั่นก็จะยิ่งทำให้พวกเรารู้สึกบีบคั้นได้ง่ายๆกรรมวิธีจัดการกับตัวคุณเองกล้วยๆก็คือต้องเรียงลำดับความสำคัญ

ของงานหรือกิจกรรมต่างๆว่าควรทำอะไรเสร็จหลังหรือก่อน และย่อยออกมาเป็นขั้นตอนเล็กๆนอกเหนือจากที่จะช่วยปรับเป็นระบบระเบียบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแล้วก็ยังช่วยให้เราไม่ทำงานหนักเกินความจำเป็นอีกด้วยล่ะ

5.ฝึกหัดมอบหมายงานให้คนอื่น

ผู้ที่บีบคั้นได้ง่ายชอบเป็นผู้ที่ชอบความ perfect และจะเอางานทุกอย่ างมากองไว้บนหัวตนเอง พย าย ามควบคุมทุกอย่ าง ลองมอบงานเล็กๆในตารางงานของคุณให้คนที่พร้อม

โดยบอกเนื้อหาจากที่คุณอยากได้อย่ างแจ้งชัด การมอบหมายงานให้ผู้อื่น ทำให้ท่านสามารถทำงานได้อย่ างดี แม้จะอยู่ในสภาพที่มีความเ ค รี ย ด สูง โดยไม่เสียมาตรฐานของตนด้วย

6.ลองกล่าวว่า "ไม่" ดูบ้ า ง

ชีวิตบางบุคคลขึ้นกับความเกรงอกเกรงใจคนอื่นมากเกินไปกระทั่งตัวเองก็เกือบจะไม่ไหวแล้ว ไม่ยอมรับใครกันแน่ไม่เป็นกระทั่งกลายเป็นนิสัยทำให้ตนเองเกิดความกดดันขึ้นโดยไม่รู้สึกตัว พวกเราจึงอย ากให้ท่านลองปฏิเสธคนอื่นๆดูบ้ า ง คุณอาจจะคิดว่าการพูดคำว่า "ไม่" จะเป็นการตัดจังหวะต่างๆหรืออนาคตออกจากชีวิตคุณ แต่ว่าในความเป็นจริงแล้ว

การปฎิเสธจะเป็นตัวช่วยสำคัญในการจัดอันดับความสำคัญของโอกาส เพื่อให้คุณได้ใช้เวลาแล้วก็ทักษะของคุณไปอย่ างมีคุณภาพ วิธีการคือให้ทดลองถามตัวเองว่า


"ฉันอย ากทำมันจริงๆหรือไม่ มันสำคัญกับจุดมุ่งหมายของฉันไหม" ฉันบอกคำว่า "ได้" เพราะทราบสึดผิดหรือเป็นเนื่องจากว่าหน้าที่หรือไม่? ทดลองตอบปัญหาของตนและลองกล่าวว่า "ไม่" มองบ้ า ง

7.หยุดวิพากษ์วิจารณ์และก็ย้อนยอกตนเอง

การพูดแ ย่ๆกับตัวเอง บางทีอาจนำมาซึ่งการก่อให้เกิดความขุ่นเคือง รวมทั้งแปลงเป็นความสิ้นหวังในที่สุด หยุดเสียงในหัวนั้นไว้ รวมทั้งเปลี่ยนแปลงมันให้เปลี่ยนเป็นพ ลั ง บวกดีมากกว่า โดยให้เขียนว่าแต่ว่าล่ะวัน

คุณวิภาควิจารณ์ตนเองว่าอะไรบ้ า ง ดังเช่น ฉันมันเฮงซวยที่ทำประเด็นนี้ไม่ได้ แล้วทำไมคุณถึงคิดอย่างงี้ ต่อจากนั้น ทดลองมีความรู้สึกว่าหากเพื่อนมาขอความคิดเห็นจากคุณในเหมือนกัน คุณจะแนะนำเขาอย่ างไร คุณจะแก้ในสิ่งที่เขาคิดไหม หรือจะบอกข้อดีในตัวเขาให้เขาได้ทราบตัว ลองฝึกฝนอย่างนี้กับตนเองก็จะช่วยได้อย่ างมาก
คนเก่ง
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13445/
คำค้นหา : คนฉลาด