วิธีเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน ไม่ทิ้งงาน และข้อเสนอสำหรับในการเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน

[Ailie662]

1. ตรวจประวัติและก็มองผลงาน
จุดกำเนิดที่สำคัญที่สุดของการตามหาบริษัทรับสร้างบ้านที่ดีนั้นคือ การค้นหาและก็คัดผู้รับเหมาสร้างบ้านที่มีมาตรฐานแล้วก็ดูน่าวางใจ ด้วยการตรวจความเป็นมาและก็มองผลงานการก่อสร้างที่ผ่านมา ไม่ว่าคุณจะลองค้นหาชื่อบริษัทจากในอินเทอร์เน็ต หรือลองถามไถ่ประสบการณ์จากเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียงที่เคยใช้บริการ คุณก็จะได้ข้อมูลอย่างคร่าวๆก่อนจะเริ่มพูดคุยเนื้อหากับผู้รับเหมาก่อสร้างที่น่าสนใจและก็รู้สึกจะเข้าท่าจริงๆกับบ้านในฝันของคุณ



2. ขอใบเสนอราคาก่อสร้าง
หลังจากหาผู้รับเหมาก่อสร้างที่พึงพอใจได้สัก 2-3 รายแล้ว คุณจำต้องแจ้งรายละเอียดการก่อสร้างรวมทั้งขอใบเสนอราคาจากผู้รับเหมาก่อสร้าง เพื่อรู้มูลค่าการก่อสร้างทั้งหมดที่คุณจำต้องจ่าย ซึ่งอาจรวมถึงเนื้อหาและมาตรฐานของสิ่งของที่ใช้ แล้วนำใบเสนอราคาทั้งหมดทั้งปวงมาเทียบก่อนตัดสินใจ ซึ่งการเสนอราคาก็สามารถสะท้อนให้มองเห็นถึงมาตรฐานการทำงานของผู้รับเหมาได้ และคุณก็จะได้เลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่ดีในราคาที่เหมาะสมจากขั้นตอนนี้เอง



3. ต้องมีสัญญาจ้างที่เด่นชัด
เมื่อพึงพอใจกับราคาที่ผู้รับเหมาสร้างบ้านเสนอมาแล้ว ก็ได้เวลาของการทำข้อตกลงจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร ห้ามตกลงงานกันปากเปล่าเด็ดขาด โดยบริษัทรับสร้างบ้านที่มีคุณภาพจะเป็นผู้เสนอสัญญาว่าจ้างให้ท่านเองเลยโดยไม่ต้องวิงวอน ซึ่งในข้อตกลงควรจะมีการเจาะจงถึงกรอบระยะเวลาการก่อสร้าง อุปกรณ์ที่ใช้ การแบ่งชำระเป็นงวดตามความคืบหน้าของงาน มีเงื่อนไขการยืนยันงานก่อสร้าง แล้วก็ถ้ามีพาร์ตเนอร์ที่รับช่วงต่อในงานที่ผู้รับเหมาไม่ถนัด ก็ต้องระบุในข้อตกลงด้วย



4. มีมาตรฐานสำหรับเพื่อการดำเนินงาน
แม้คุณจะบากบั่นหาผู้รับเหมาก่อสร้างให้ดีอย่างไร ท้ายที่สุดมาตรฐานที่แท้จริงก็จะมองเห็นได้เมื่อเริ่มงาน โดยผู้รับเหมาก่อสร้างที่มีมาตรฐานนั้นต้องคิดแผนงานให้ท่านรู้อย่างมีระบบ ถ้าหากเป็นงานใหญ่จะต้องส่งวิศวกรหรือสถาปนิกของผู้รับเหมาก่อสร้างมาให้การดูแลถึงหน้างาน แล้วก็ที่ขาดไม่ได้คือเอกสารรายจ่ายวัสดุ (Bill of Quantities หรือ BOQ) ที่ชี้ให้เห็นถึงการใช้วัสดุและค่าใช้จ่ายระหว่างก่อสร้าง ซึ่งหากผู้รับเหมาก่อสร้างตกมาตรฐานไหนไป คุณจำต้องเรียกหาในทันทีอย่าได้ช้า



5. มีผู้ชำนาญตรวจทานงาน
การตรวจรับงานไม่ใช่แค่ผู้รับเงินมาเดินตามติดคุณแล้วชี้ให้มองโน่นนี่โน่นจากนั้นก็จบ แต่ว่าคุณต้องมีสถาปนิกหรือวิศวกรก่อสร้างที่มีความชำนิชำนาญมาร่วมตรวจงาน ซึ่งควรหาคนกลางมาเอง แต่ถ้าหาไม่ได้ก็ต้องมีวิศวกรฝั่งผู้รับเหมามาร่วมตรวจงานด้วย โดยบริษัทรับสร้างบ้านควรจะมีรายการตรวจรับงานอย่างเห็นได้ชัด แม้มีอะไรที่ผิดจากที่เคยตกลงกันไว้จำเป็นต้องพร้อมปรับปรุงแก้ไข รวมทั้งเมื่อสำรวจกระทั่งมั่นใจว่าบ้านของคุณสมบูรณ์แบบแล้ว แล้วก็ค่อยชำระเงินงวดสุดท้ายเพียงเท่านี้ก็เรียบร้อยสิ้นการส่งงาน



การเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน เป็นขั้นตอนสำคัญในการดำเนินโครงการสร้างบ้านที่ปลอดภัย และมีคุณภาพสูง
โดยเหตุนั้น นี่คือ 10 ข้อแนะนำที่สามารถจะช่วยในวิธีการเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่สมควร



1. เรียนรู้ รวมทั้งทำความเข้าใจเกี่ยวกับบริษัท: เล่าเรียนเนื้อหาเกี่ยวกับบริษัทรับสร้างบ้านที่คุณสนใจ ซึ่งรวมทั้งประวัติความเป็นมาของบริษัท รวมทั้งผลงานที่เคยทำมาก่อนหน้า
ยิ่งไปกว่านี้คุณยังสามารถอ่านรีวิวจากลูกค้าก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาเพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทมีความน่าวางใจ และก็มีความรู้ความเข้าใจสำหรับในการดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ



2. ตรวจทานความถูกต้องด้านกฎหมาย: ตรวจสอบว่าบริษัทมีเอกสารสิทธิ์ รวมทั้งการจดทะเบียนที่ถูกตามกฎหมายเพื่อแน่ใจว่าคุณได้ทำธุรกิจกับบริษัทที่ถูก และเป็นธรรม



3. มอง และเปรียบราคา: ขอใบเสนอราคาจากบริษัทที่คุณตรึกตรอง แต่ว่าอย่าตีราคาให้เป็นเพียงแค่องค์ประกอบเดียวสำหรับเพื่อการตกลงใจ เปรียบเทียบราคากับประสิทธิภาพ และก็บริการที่กำลังจะได้รับ

4. ตรวจดูประวัติการปฏิบัติการ: มองผลงานที่เคยทำของบริษัทรับสร้างบ้านในสมัยก่อน มองภาพถ่าย หรือเยี่ยมชมสถานที่โดยตรง เพื่อคุณได้พินิจพิเคราะห์คุณภาพของงานจากบริษัทที่มีประสบการณ์สำหรับการจัดการ



5. ซักถาม และก็สร้างเสริมความมั่นใจและความเชื่อมั่น: สื่อสารกับบริษัทเพื่อสอบถามข้อมูลอื่นๆ ควรจะถามเรื่องช่วงเวลาในการดำเนินโครงงาน การสื่อสาร แล้วก็การจัดการปัญหา คุณควรจะรู้ดีว่าบริษัทนั้นพร้อมจะให้การช่วยเหลือ รวมทั้งคำชี้แนะที่ดีตลอดขั้นตอนก่อสร้าง

6. ความชำนิชำนาญในด้านที่คุณสนใจ: ตรวจดูความเชี่ยวชาญของบริษัทรับสร้างบ้านในด้านที่คุณต้องการ บางทีอาจเป็นการก่อสร้างบ้านพื้นฐานในนานาประการขนาดบ้าน เลือกบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญ แล้วก็ประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สำเร็จลัพธ์ที่อยากได้



7. คุณภาพสิ่งของ แล้วก็เทคโนโลยี: ซักถามว่าบริษัทใช้วัสดุ และเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐานหรือไม่ การใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงจะช่วยทำให้ได้รับสินค้าที่ทนทาน และทนทานต่อการใช้แรงงานในระยะยาว

8. ระยะเวลา และการมอบ: ไต่ถามเกี่ยวกับช่วงเวลาที่บริษัทรับสร้างบ้านสามารถสร้างบ้านให้เสร็จสิ้น และการส่งมอบงานภายในช่วงระยะเวลาที่ระบุ



9. การรับรองประสิทธิภาพ: ถามเกี่ยวกับการรับประกันคุณภาพของงาน ว่าบริษัทมีการรับประกันประสิทธิภาพงานก่อสร้างบ้านหลังการมอบหรือเปล่า แล้วก็ระยะเวลาการรับรองเป็นเท่าไร

10. การตรวจตราเอกสาร และสัญญา: ตรวจทานรายละเอียดในคำสัญญารับเหมาก่อสร้างที่จำเป็นต้องทำกับบริษัทรับสร้างบ้าน และก็อ่านเอกสารให้รู้เรื่องให้ดีก่อนที่จะลงนามในสัญญา หากมีข้อสงสัยหรือไม่รู้เรื่อง ควรซักถาม แล้วก็เสวนากับบริษัทรับสร้างบ้านให้รู้เรื่องถูกตรงกันทั้งสองฝ่าย



สรุป การเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่สมควรเป็นขั้นตอนการที่ต้องใช้เวลา แล้วก็ความละเอียดถี่ถ้วน เนื่องจากการสร้างบ้านเป็นโครงการที่ใช้เวลานาน แล้วก็มีความหมาย
ดังนั้นคุณควรทำการวิจัย และก็การวิเคราะห์อย่างละเอียด เพื่อให้คุณสามารถเลือกบริษัทที่เหมาะสม รวมทั้งมีคุณภาพที่สุดสำหรับเพื่อการก่อสร้างบ้านของคุณเอง
โดยควรที่จะใช้เวลาสำหรับการวิเคราะห์ และประเมินตัวเลือกที่มีอยู่ พร้อมทำเปรียบเทียบสิ่งที่คุณต้องการให้ครบสมบูรณ์สูงที่สุด และเลือกใช้บริษัทรับสร้างบ้านที่เข้ากันได้กับความปรารถนา แล้วก็ความหวังของคุณ
อย่าลืมตรวจดูสัญญาที่ระบุข้อแม้ แล้วก็รายละเอียดต่างๆเพื่อให้แน่ใจว่าคุณรู้เรื่อง และสารภาพข้อตกลงทั้งหมดทั้งปวงก่อนจะลงลายมือชื่อ
การมีคำสัญญาที่กระจ่างแจ้ง เป็นเรื่องจำเป็นที่จะสร้างความมั่นใจ รวมทั้งคุ้มครองปัญหาในอนาคต

[Joe524]

 บริษัทวารินแอคซิส ประทับใจสูงสุด